fbpx

ทำไม TPE ถึงได้เป็นวัสดุที่ตอบโจทย์การใช้งาน

ทำไม TPE ถึงได้เป็นวัสดุที่ตอบโจทย์การใช้งาน

วัสดุ TPE (Thermoplastic Elastormer) เป็นวัสดุที่มีทั้งความยืดหยุ่น และความแข็งแรง มักถูกนำมาใช้แทนยางธรรมชาติ และยางสังเคราะห์ในบางแอปพลิเคชัน ด้วยเหตุผลเรื่องคุณสมบัติที่ยืดหยุ่น แข็งแรง และยังสามารถนำมารีไซเคิลได้อีกด้วย ทำให้ตอบโจทย์การใช้งานที่ต้องการสมบัติทั้งสองนี้พร้อมกัน  แล้วอะไรทำให้วัสดุ TPE ถึงมีทั้งความยืดหยุ่น และความแข็งแรง ซึ่งในบทความนี้มีคำตอบ

เหตุผลที่ TPE เป็นวัสดุที่มีทั้งความยืดหยุ่นและความแข็งแรง

เหตุผลที่ TPE เป็นวัสดุที่มีทั้งความยืดหยุ่นและความแข็งแรง​

การที่ TPE (Thermoplastic Elastomers) เป็นวัสดุที่มีความยืดหยุ่นและแข็งแรงพร้อมกัน เนื่องมาจากเหตุผลหลายปัจจัยที่มีผลต่อโครงสร้าง และคุณสมบัติของวัสดุดังกล่าว ดังนี้

โครงสร้างของ TPE

การผลิต TPE (Thermoplastic Elastomers) เป็นกระบวนการที่มีความซับซ้อนและต้องอาศัยเทคโนโลยีที่ทันสมัย องค์ประกอบของ TPE นั้นประกอบด้วย 2 ส่วนที่สำคัญคือ ส่วนแข็ง (Hard segment) ซึ่งเป็นตัวแทนของสมบัติความแข็งแรง อาทิ กลุ่มพอลิโอเลฟิน (Polyolefin), กลุ่มสไตรนิก (Styrenic) เป็นต้น และส่วนอ่อน (Soft segment) อาทิ ยางบิวตะไดอีนEPDM เป็นต้น  ซึ่งเป็นตัวแทนของสมบัติความยืดหยุ่น 
สำหรับยางแม้ว่าจะมีความยืดหยุ่นสูงแต่กลับมีข้อเสียสำคัญคือมีการแข็งแรงต่ำ สูญเสียคุณสมบัติยืดหยุ่นที่อุณหภูมิต่ำ กระบวนการผลิตหลายขั้นตอนทำให้สิ้นเปลืองพลังงาน และเวลาในการผลิตชิ้นงาน รวมถึงไม่สามารถรีไซเคิลได้ และสำหรับพลาสติกทั่วไปนั้นแม้จะมีคุณสมบัติโดดเด่นในเรื่องความแข็งแรง และสามารถรีไซเคิลได้ แต่มีข้อเสียเรื่องความยืดหยุ่นที่ต่ำกว่ายางมาก 
จากจุดนี้สะท้อนให้เห็นว่าทั้งยาง และพลาสติกทั่วไปมีข้อจำกัดในการใข้งาน ในขณะที่ TPE นั้น ถือว่าเป็นวัสดุที่อยู่กึ่งกลางระหว่างยาง และพลาสติกทั่วไป TPE สามารถผลิตชิ้นงานได้ง่ายกว่าเนื่องจากสามารถขึ้นรูปด้วยกระบวนการเดียวกับพลาสติกทั่วไป และอุณหภูมิการใช้งานที่ครอบคลุมกว่ายาง รวมถึงสามารถรีไซเคิล และสมบัติอื่นที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ
ทั้งหมดนี้ทำให้ TPE โดดเด่น มีคุณสมบัติที่น่าทึ่งทั้งสามารถยืดหยุ่นได้เหมือนยาง แต่ก็มีความแข็งแรง ทนทาน เหมือนพลาสติก รีไซเคิลได้ ตอบโจทย์ความต้องการในการใช้งาน

การปรับปรุงคุณสมบัติ

ผู้ผลิตสามารถปรับปรุงสมรรถนะของ TPE ได้ตามความต้องการของลูกค้า โดยการปรับสารประกอบ หรือกระบวนการผลิต เช่น การเพิ่มสมบัติการทนไฟ, การทนต่อสภาพอากาศ  เพื่อให้ตรงกับการใช้งานในสาขาอุตสาหกรรมต่าง ๆ รวมถึงปัจจุบันกระแสของวัสดุกลุ่มนี้ ทั้งการวิจัย และพัฒนาในวงการอุตสาหกรรมวัสดุมีการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ ๆ สำหรับกระบวนการผลิต TPE เพื่อปรับปรุงสมรรถนะ และลดต้นทุน 

การใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเช่น การผสมสารเคมีแบบกำหนดเวลา (time-controlled compounding) หรือการใช้เครื่องฉีดพลาสติกอัตโนมัติ (automated injection molding machine) เป็นต้น ทำให้ผู้ผลิตสามารถผลิต TPE ในปริมาณมากโดยยังสามารถรักษาคุณภาพและคุณสมบัติของวัสดุได้ ทำให้ TPE นั้นสามารถปรับเปลี่ยนสมบัติได้ตามความต้องการของตลาด

นวัตกรรมการผลิต TPE

กระบวนการผลิต TPE

การผลิต TPE นั้นสามารถทำได้หลายวิธีการ ตั้งแต่การสังเคราะห์ออกแบบโครงสร้างโมเลกุลซึ่งต้องใช้เทคโนโลยีระดับสูง หรือการทำคอมปาวด์ (compounding) โดยการผสมองค์ประกอบที่มีคุณสมบัติต่าง ๆ เพื่อให้ได้สารประกอบที่มีความเหมาะสมสำหรับกับการใช้งานแต่ละประเภท จากนั้นเมื่อได้พลาสติกคอมปาวด์ตามที่ต้องการแล้ว จึงนำไปขึ้นรูปด้วยกระบวนการขึ้นรูปต่างๆ อาทิ กระบวนการฉีดขึ้นรูป หรืออัดรีดขึ้นรูป เช่นเดียวกับพลาสติกทั่วไป ทำให้สามารถผลิตชิ้นงาน TPE ได้ในรูปแบบที่ต้องการ ภายใต้การควบคุมคุณภาพของผลิตภัณฑ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งหมดนี้กล่าวได้ว่า  TPE เป็นวัสดุที่มีตอบโจทย์อุตสาหรรมปัจจุบัน สามารถปรับสมรรถนะตามความต้องการของผู้ผลิต โดยมีกระบวนการผลิต และนวัตกรรมที่ทันสมัย คอยกำกับ อีกทั้งยังสามารถนำกลับมารีไซเคิลได้อีกด้วย ทำให้ TPE เป็นวัสดุที่ได้รับความนิยมในการใช้งานในหลาย ๆ อุตสาหกรรม และยังเป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่องในอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์พลาสติกต่อไปในอนาคต

สนใจสั่งเม็ดพลาสติก TPE

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า
Scroll to Top