fbpx

วิธีการเลือก ESD Tube สำหรับโปรเจ็กต์ของคุณ

วิธีการเลือก ESD Tube สำหรับโปรเจ็กต์ของคุณ

      ไฟฟ้าสถิตคือประจุไฟฟ้าที่สะสมอยู่บนพื้นผิวของวัตถุ ซึ่งเมื่อมีการสัมผัสหรือถู อาจทำให้เกิดการช็อตไฟฟ้าได้ สำหรับอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ปัญหาไฟฟ้าสถิตเป็นสิ่งที่ต้องระวัง เพราะสามารถทำให้ชิ้นส่วนเสียหายหรือทำงานผิดพลาดได้

      ท่อ ESD (Electrostatic Discharge) หรือท่อป้องกันไฟฟ้าสถิต เป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันปัญหานี้ มันใช้สำหรับเก็บและขนส่งชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ โดยท่อ ESD Tube จะช่วยป้องกันไม่ให้ประจุไฟฟ้าสถิตสะสม ซึ่งช่วยลดความเสียหายและความเสี่ยงในการผลิตและจัดส่งสินค้า

      ดังนั้น ส่วนสำคัญในการรักษาคุณภาพและความปลอดภัยของชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์จะไม่มีปัญหาและพร้อมสำหรับการใช้งาน

ESD Tube คืออะไร?

      เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับป้องกันการเกิดไฟฟ้าสถิต (Electrostatic Discharge หรือ ESD) โดยทั่วไปแล้วมักถูกนำไปใช้ในวงจรอิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์ต่างๆ ที่อาจได้รับความเสียหายจากการเกิดไฟฟ้าสถิตได้ มีหน้าที่ดูดซับและระบายไฟฟ้าสถิต ออกจากอุปกรณ์ ช่วยป้องกันความเสียหายที่เกิดจากการไหลผ่านจาก อิเล็กตรอน ในสถานการณ์ ต่างๆ เช่น การบรรจุเพื่อการขนย้าย แรงเสียดสีระหว่างวัสดุ เป็นต้น

ในการเลือกใช้ ESD tube ควรพิจารณาประเด็นต่อไปนี้

ในการเลือกใช้ ESD tube ควรพิจารณาประเด็นต่อไปนี้

  • ระดับการป้องกันไฟฟ้าสถิต ควรเลือกท่อที่มีระดับการป้องกันไฟฟ้าสถิตที่เหมาะสมกับความต้องการของอุตสาหกรรม หากต้องการการป้องกันสูง ท่อที่มีสารเคลือบพิเศษอาจเป็นทางเลือกที่ดี
  • วัสดุที่ใช้ผลิต ท่อมีหลายประเภท ซึ่งทำจากวัสดุต่าง ๆ เช่น พลาสติก ควรเลือกวัสดุที่มีความแข็งแรงและทนทานต่อการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน
  • ขนาดและรูปทรง ควรเลือกขนาดและรูปทรงที่เหมาะสมกับชิ้นส่วนที่ต้องการจัดเก็บหรือขนส่ง ท่อที่มีขนาดเล็กเกินไปหรือใหญ่เกินไปอาจไม่เหมาะสมสำหรับการใช้งาน
  • การใช้งานและความสะดวกสบาย ควรพิจารณาวิธีการใช้ สะดวกและง่ายต่อการจัดเก็บ หากต้องการใช้งานในกระบวนการผลิตที่รวดเร็ว ท่อที่มีการออกแบบให้สามารถเปิด-ปิดได้ง่ายอาจเป็นทางเลือกที่ดี

สาเหตุการเกิดประจุไฟฟ้าสถิต

มี 4 สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดประจุไฟฟ้าสถิต ดังนี้
  • การเสียดสี : เกิดจากการเสียดสีระหว่างวัตถุสองชิ้น ทำให้เกิดการถ่ายเทประจุไฟฟ้า วัตถุหนึ่งสูญเสียอิเล็กตรอน กลายเป็นประจุบวก อีกวัตถุหนึ่งรับอิเล็กตรอน กลายเป็นประจุลบ
  • การเหนี่ยวนำประจุ : เกิดจากการนำวัตถุที่มีประจุไฟฟ้าไปใกล้กับวัตถุอีกชิ้น โดยไม่ต้องสัมผัสกัน ประจุไฟฟ้าบนวัตถุแรกจะเหนี่ยวนำให้เกิดประจุไฟฟ้าบนวัตถุที่สอง
  • การนำประจุ : เกิดจากการสัมผัสวัตถุที่มีประจุไฟฟ้ากับวัตถุที่ไม่มีประจุไฟฟ้า ประจุไฟฟ้าจะถ่ายเทจากวัตถุที่มีประจุไปยังวัตถุที่ไม่มีประจุจนกระทั่งทั้งสองวัตถุมีประจุไฟฟ้าเท่ากัน
  • สภาวะแวดล้อม : สภาพแวดล้อมบางประเภท เช่น อากาศแห้ง ฝุ่นละออง รังสี สามารถส่งผลต่อการสะสมของประจุไฟฟ้าสถิตได้

ความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับ ESD Tube

      ในยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์มีบทบาทสำคัญ ไฟฟ้าสถิตย์ กลายเป็นปัญหามากขึ้นเรื่อยๆ ESD สามารถสร้างความเสียหายต่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ละเอียดอ่อน  ก่อให้เกิดประกายไฟฟ้า  และอาจนำไปสู่ความผิดพลาดของระบบ ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อช่วยป้องกันปัญหาเหล่านี้  แต่ละประเภทมีคุณสมบัติและเหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกัน

ประเภทของท่อ ESD

ประเภทของท่อ ESD

ท่อฉนวนสำหรับการป้องกันไฟฟ้าสถิตย์ (Antistatic Tubing)

ท่อ Anti-Static ประเภทนี้ทำจากวัสดุฉนวนไฟฟ้า เช่น พลาสติก PE, PTFE หรือ PVC ท่อเหล่านี้ไม่นำไฟฟ้าและช่วยป้องกันชิ้นงานภายในจากการสะสมประจุไฟฟ้าสถิตย์ เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการป้องกันความเสียหายจากประกายไฟฟ้าสถิตย์ เช่น การขนส่งชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์หรืออุปกรณ์ที่ละเอียดอ่อน

ท่อนำไฟฟ้า (Conductive Tubing)

ท่อประเภทนี้ทำจากวัสดุที่นำไฟฟ้า เช่น อะลูมิเนียมหรือโลหะผสม ท่อเหล่านี้ช่วยกระจายประจุไฟฟ้าสถิตย์ออกจากชิ้นงานภายใน เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการป้องกันการสะสมประจุไฟฟ้าสถิตย์ เช่น ระบบสายเคเบิลหรือท่อส่งน้ำมัน

ท่อป้องกันไฟฟ้าสถิตย์ (Dissipative Tubing)

ท่อประเภทนี้ทำจากวัสดุที่มีความต้านทานไฟฟ้าต่ำ ท่อเหล่านี้ช่วยลดการสะสมประจุไฟฟ้าสถิตย์และกระจายประจุไฟฟ้าออกจากชิ้นงานภายใน เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการป้องกันความเสียหายจากประกายไฟฟ้าสถิตย์และป้องกันการสะสมประจุไฟฟ้าสถิตย์ เช่น ห้องปฏิบัติการอิเล็กทรอนิกส์หรือโรงงานผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

การเลือก ESD Tube สำหรับโปรเจ็กต์ของคุณ

  • เลือกระดับการป้องกันไฟฟ้าสถิต ควรเลือกท่อที่มีระดับการป้องกันไฟฟ้าสถิตที่เหมาะสมกับความต้องการของอุตสาหกรรม โดยทั่วไป ท่อป้องกันไฟฟ้าสถิตย์ (Dissipative Tubing) ที่ผลิตจาก PVC ใส ค่าความต้านทานพื้นผิว (Surface Resistivity) ของท่อ 108 – 109 โอห์ม หรือหากต้องการการป้องกันสูง ท่อที่มีสารเคลือบพิเศษ โดย ค่าความต้านทานพื้นผิว (Surface Resistivity) < 107 โอห์ม อาจเป็นทางเลือกที่ดี
  1. เลือกวัสดุที่ใช้ผลิต ท่อมีหลายประเภท ซึ่งทำจากวัสดุต่าง ๆ เช่น พลาสติก ควรเลือกวัสดุที่มีความแข็งแรงและทนทานต่อการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน เช่น ท่อป้องกันไฟฟ้าสถิตย์ (Dissipative Tubing) ที่ต้องการความใสและเหนียวทนแรงกระแทกได้ดี ควรเลือกวัสดุเป็น PET-G หรือต้องการท่อป้องกันไฟฟ้าสถิตย์ ทีไม่ได้ต้องการความใสไม่มากนักและเหนียวทนแรกกระแทกได้พอสมควร ก็ควรเลือกใช้วัสดุเป็น PVC ใส
  1. ขนาดและรูปทรง ควรเลือกขนาดและรูปทรงที่เหมาะสมกับชิ้นส่วนที่ต้องการจัดเก็บหรือขนส่ง ท่อที่มีขนาดเล็กเกินไปหรือใหญ่เกินไปอาจไม่เหมาะสมสำหรับการใช้งาน
  1. การใช้งานและความสะดวกสบาย ควรพิจารณาวิธีการใช้ สะดวกและง่ายต่อการจัดเก็บ หากต้องการใช้งานในกระบวนการผลิตที่รวดเร็ว ท่อที่มีการออกแบบให้สามารถเปิด-ปิดได้ง่ายอาจเป็นทางเลือกที่ดี เช่น ใช้หมุดพลาสติก ทำหน้าที่ในการปิดหัวและท้ายท่อ เวลาจะใช้เพียงแค่ถอดหมุดออก ก็สามารถนำชิ้นงานออกมาได้ง่าย

บริษัท VIC เป็นผู้เชี่ยวชาญในการผลิตท่อ ESD (Electrostatic Discharge Tube) ซึ่งมีความสำคัญในการควบคุมและจัดการกับประจุไฟฟ้าสถิตย์ในสถานการณ์ต่าง ๆ เช่น ในกระบวนการผลิตและขนส่งชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ บริษัทมีความเชี่ยวชาญในการออกแบบและผลิตท่อ ESD ที่มีคุณภาพสูง ซึ่งครอบคลุมทั้งท่อฉนวนสำหรับการป้องกันไฟฟ้าสถิตย์ (Antistatic Tubing), ท่อนำไฟฟ้า (Conductive Tubing), และท่อป้องกันไฟฟ้าสถิตย์ (Dissipative Tubing)

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า
Scroll to Top